- แบบปากเปล่า (ผ่าน Notebook และ Projector)
- แบบโปสเตอร์ (อยู่ที่โต๊ะแสดงผลงาน)
******************************
- ถ้ามีเอกสารประกอบการนำเสนอและรายละเอียดของงานจำนวนมาก ควรเลือกการนำเสนอแบบโปสเตอร์เพื่อความสะดวก ชัดเจนในการเสนอชิ้นงาน
- ถ้ามีเอกสารไม่มาก ควรเลือกนำเสนอแบบปากเปล่า (ผ่าน Notebook และ Projector)
- ถ้าไม่ได้ใช้ Notebook ของกรรมการ ให้ทดสอบ Notebook กับ Projector ก่อนว่าเชื่อมต่อกันได้หรือไม่ ถ้าไม่ให้รีบเขียนข้อมูลใส่แผ่น CD หรือ DVD หรือ ใช้เครื่องมือบันทึกข้อมูลอื่น ๆ ที่มี ตามขนาดของข้อมูลที่จะนำเสนอ และเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดเกิดขึ้นอีก
- ควรสำรองข้อมูลไฟล์นำเสนอเป็น PDF ด้วย (ข้อนี้ครูบ๋อมพิสูจน์มาแล้ว Notebook กับ Projector ไม่คุยกัน ไฟล์นำเสนอเปิดไม่ได้ (เนื่องจากเบลอ ตอน save ลืมปิดไฟล์นั้นทำให้การ save มีปัญหา จึงเปิดไม่ได้) โชคดีที่ PDF ช่วยกู้หน้าไว้ และได้ยืม Notebook ของครูท่านหนึ่ง ถ้าจำไม่ผิดจากโรงเรียนสารคามพิทยาคมที่ให้ความอนุเคราะห์ จึงขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ แต่ถึงอย่างไรก็ไม่มีโอกาสได้นำเสนอรายละเอียดมากนัก เพราะงานของครูบ๋อมเป็นงานทั้งปีการศึกษา เนื้อหามาก เวลามีจำกัดข้อมูลเป็นลักษณะโปรแกรมที่มีการเชื่อมต่อกันอย่างเป็นระบบ วันนั้นโดนไปหลายรายเลยทีเดียว (Notebook(Acer) กับ Projector(Panasonic) ครูบ๋อมนี้อึ้งไปเลย)
******************************
แนะนำวิธีการทำผลงานและนำเสนอ (ตามที่ได้ฟังกรรมการวิพากษ์ผลงานของแต่ละคน)- การนำเสนอต้องมีความมั่นใจในตนเองให้สูง
- การนำเสนอแบบปากเปล่า ถ้าเป็นไปได้ควรยืนนำเสนอ ชี้แจง อย่างมีเทคนิค ไม่ควรนั่งอ่านผ่าน Notebook เพราะไม่ได้ความรู้สึกของการนำเสนอ (ไม่ได้อารมณ์) ถ้าอ่านให้ฟังยิ่งแล้วใหญ่
- เตรียมเนื้อหาให้กระชับ ชัดเจน ในรายละเอียด ถูกต้องตามหลักวิชาการ
- ควรรักษาเวลาในการนำเสนอ ส่วนใหญ่จะกำหนด 5 - 10 นาที อีก 5 นาที ที่เหลือให้กรรมการซักถาม
- เรื่องที่นำเสนอควรอยู่ในกรอบของวิชาการ และคนส่วนมากเขาทำกัน ถ้าออกนอกกรอบ มีหวังได้ลุ้น (เช่น งานของครูบ๋อมเกือบ ๆ จะหลุดกรอบ เพราะเป็นงานที่มีเนื้อหาตลอดปีการศึกษา ครบตามหลักสูตร ทั้งสื่อ นวัตกรรรม การวัดและประเมินผล (ขาดเอกภาพ เนื่องจากหลากหลาย) เนื่องจากครูบ๋อมต้องการงานที่ใช้ได้จริง ไม่ได้หวังจะประกวดเลย (ไปแบบงงๆ) )
- ใครที่คาดหวังจะชนะขอแนะนำว่า ควรมุ่งศึกษาเจาะลึกเฉพาะเรื่องเดียว
- มีการทำเป็นรูปเล่ม ชุดฝึกทักษะ จากนั้นควรเปลี่ยนรูปเล่มเป็นภาพเคลื่อนไหว มีแสง สี เสียง โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) เช่น ทำ Video, Clip Video, GSP (เขาฮิตกัน) , Microsoft Office PowerPoint เมื่อทำเสร็จแล้วควรเผยแพร่ผ่าน Internet เผยแพร่อย่างเป็นระบบต่อไป ขอเน้นว่าต้องอยู่ในกรอบวิชาการน่ะค่ะ
- ที่กล่าวมาทั้งหมดครูบ๋อมทำได้ไม่ถึง 100% เลยน่ะค่ะ (แต่ขณะอยู่ในการแข่งขันก็พอจะอ่านเกมออก) เพราะครูบ๋อมต้องการแค่งานที่สามารถใช้จริง เป็นประโยชน์กับนักเรียน และครูที่สนใจศึกษาเท่านั้น เรื่องประกวดผลงานถ้า "เจ้านาย" ไม่สั่ง ก็ขอทำงานเผยแพร่ความรู้แบบนี้เรื่อยไป มีความสุขมากกว่าเยอะ
******************************
******************************
ตอนนี้ยังพอจะคิดหรือทำอะไรนอกกรอบได้ แต่ถ้าทำผลงาน อันดับ คศ.3 ก็คงไม่กล้า (บ้า + ซ่า นอกกรอบหรอก) เดียวจะ "ตก" โดยไม่ได้ "ปรับปรุง" และ "วางแผน" เคยพบกรณีตัวอย่างนวัตกรรมดี ความคิดดี ใช้ได้จริง แต่ขาดเอกสารอ้างอิง (ไม่มีใครทำ) ปรากฏว่า "ตก" จากตัวอย่างและวิธีทำ (พูดแบบครูคณิตศาสตร์)
จะพบว่า ผลงานทางวิชาการที่ทำการศึกษา ค้นคว้า พัฒนา ต้องมีเอกสารอ้างอิงที่น่าเชื่อถือทั้งในและต่างประเทศรองรับเสมอ และต้องมากด้วย
ฉะนั้น ถ้าจะทำผลงานทางวิชาการ โดยไม่มีความเสี่ยงกับคำว่า "ไม่ประสบความสำเร็จ" จะต้องทำในเรื่องที่คนอื่นเขาทำกันเป็นส่วนใหญ่ "เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงนั้น"
******************************
การไปครั้งนี้มีประโยคหนึ่งที่ทำให้เปลี่ยนเป้าหมายของการทำงานไปเลยคือ "ต่อให้ทำการวัดและประเมินผลดีเพียงใด ถ้ารูปแบบวิธีการสอนยังไม่ดีพอ ทุกอย่างก็ไม่มีประโยชน์อันใด" (จริงอย่างเขาว่า)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น