- วิธีการสอนที่เคยใช้เมื่อ 10 ปีที่แล้ว :
- จดตามคำบอก หรือไม่ก็จดตามกระดาน (เพราะเด็กไม่มีตำราเรียน)
- นับลายเซ็นเมื่อสิ้นภาคเรียน (เพราะครูวัดประเมินผลไม่เป็นปัจจุบัน)
- เรียกชื่อนักเรียนทุกคนในคาบสอน (นักเรียนประมาณเกือบ 40 คน : กินเวลาสอน ครูลมแทบจับ)
- ฯลฯ
- จึงได้เก็บประสบการณ์ที่มีมานานถึง 10 กว่าปี (ตอนนี้แก่แล้ว) มาเล่าสู่กัน "ศึกษา"
- บางปัญหาเป็นเพียงแนวทางการแก้ปัญหา ยังไม่ได้นำไปทดลองใช้ เป็นเพียงแนวคิดเล็ก ๆ ที่วางแผนไว้ และจะนำไปทดลองใช้ต่อไป
- ท่านใดอยากเล่าแลกเปลี่ยน เพื่อประโยชน์แด่ส่วนรวม สามารถ Post แสดงความคิดเห็นได้นะคะ
- ต่อไปขอเล่า ปัญหามีอยู่ว่า...
*******************************************
ปัญหา
- จะทำอย่างไรให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ มีความสุขและสนุกสนานในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนรายวิชาที่เป็นนามธรรม และความรู้ที่ได้ไม่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง แต่เป็นพื้นฐานของความรู้ที่จะเรียนในระดับที่สูงขึ้นไปและหลักสูตรได้กำหนดไว้
- หนังสือเล่มเล็ก, mini-book, Lapbook,Notebook
- สำหรับ Mini-Book ขอแนะนำให้ใช้แบบ 64 page on One Page Book สำหรับบันทึกความรู้ที่ได้ในเวลาเรียน
- ปากกาสีแบบเน้นข้อความ แบบหมึกซึม แบบหมึกสะท้อนแสง
- Mind map และ Concept map สรุปสิ่งที่เรียนแล้วนำไปรวมรวบไว้ใน BigBook หรือ NoteBook (ไส้แฟ้ม) หรือ TextBook
*******************************************
ปัญหา- เด็กบางห้องไม่ชอบทำการบ้าน และ/หรือไม่สามารถทำคนเดียวได้ ต้องร่วมกันทำเป็นกลุ่ม
- ให้ทำการบ้านในคาบเป็นแบบฝึกหัดระหว่างเรียนและทำให้เสร็จภายในคาบนั้น ๆ หรือภายวันที่สอน
- ให้นักเรียนนั่งเรียนเป็นกลุ่ม และทำงานเป็นกลุ่ม (คละ เก่ง ปานกลาง อ่อน โดยใช้ผลการเรียนเฉลี่ยสะสมกลุ่มสาระการเรียนรู้นั้น ๆ หรือผลการเรียนเฉลี่ยสะสมทั้งหมด มาช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูล)
- 1 - 2 โจทย์ : 1 กลุ่ม (โดยปกติแล้ว ใน 1 ชั่วโมงจะมีแบบฝึกหัดไม่เกิน 5 - 10 ข้อใหญ่)
- กลุ่มใดไม่ส่งหรือทำไม่เสร็จก็จะไม่มีคะแนนสะสมของกลุ่ม
- เก็บชิ้นงานทุกคาบ
- สุ่มถามสมาชิกในกลุ่มถึงวิธีการทำโจทย์ที่ได้รับมอบหมาย ถ้าตอบไม่ได้ให้พิจารณาตาม Rubric แล้วบันทึกคะแนนสะสมของกลุ่ม
- มี Feedback จากบัญชีคะแนนโดยใช้ Microsoft Office Excel แสดงเป็นกราฟแท่ง นักเรียนจะได้อารมณ์ลุ้นดี
*******************************************
ปัญหา- "เมื่อได้เวลา 1 คาบ เท่ากับ 50 นาที" จะทำอย่างไร เมื่อต้องเช็คชื่อนักเรียนทั้งหมด
- จัดให้นักเรียนนั่งตามผังที่นั่ง โดยยึดคละเก่ง กลาง อ่อน (ที่ครูบ๋อมใช้คือ เก่งที่สุดนั่งคู่กับอ่อนที่สุด (นั่งด้านหน้าสุดของห้อง) เก่งรองลงมานั่งคู่กับอ่อนรองลงมา ไปเรื่อย ๆ จนถึง กลางนั่งคู่กลาง (นั่งด้านหลังสุดของห้อง)
- ใช้หลักการโต๊ะใดว่าง โต๊ะนั้นขาดเรียน
- นอกจากผังที่นั่งจะมีประโยชน์ดังกล่าวแล้ว ยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์อื่น ๆ ได้ เช่น
- เมื่อต้องการให้คะแนนพิเศษ สำหรับนักเรียนที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมในห้องเรียนที่พิเศษ เช่น หาคำตอบของโจทย์ปัญหาที่ซับซ้อนได้ (คะแนนขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของโจทย์นั้น)
- เมื่อต้องการบันทึกการสุ่มสังเกตพฤติกรรมอันไม่พึงประสงค์ระหว่างการเรียนการสอนของนักเรียนแต่ละคน
- สามารถนำไปประยุกต์ในการสุ่มให้นักเรียนออกมาร่วมกิจกรรมในชั้นเรียน ทำให้มีบรรยากาศตื่นเต้น เร้าใจยิ่งขึ้น (แต่นักเรียนหลายคนบอกว่า "หัวใจจะวาย")
*******************************************
ปัญหา- การตรวจสอบว่านักเรียนทำการบ้านหรือไม่
- ทุกคาบให้ส่งการบ้านก่อนเรียนหรือท้ายคาบตามความเหมาะสม
- ให้ส่งการบ้านก่อนเข้าชั้นเรียน แต่ถ้าเวลาไม่พอครูตรวจไม่ทัน ในกรณีทีสอนจำวนหลาย ๆ ห้อง และครูมีงานพิเศษมากมาย ให้ใช้วิธีการตรวจงาน 2 ครั้ง คือ
- ครั้งที่ 1 ใช้วิธีการสุ่มตรวจ โดยใช้สลากจากผังที่นั่ง จำนวนประมาณ 3 - 6 คน/ 1 คาบ ตามความเหมาะสมของเวลา หรือตามบริบทของผู้เรียน สำหรับนักเรียนที่ไม่ถูกสุ่ม ให้สมมุติว่า "นักเรียนทุกคนเป็นเด็กดี" ทำการบ้านมาเสร็จเรียบร้อย นอกจากนี้อาจจะใช้วิธีการสุ่มแบบเจาะจง กล่าวคือถ้านักเรียนคนใดที่ไม่ตั้งใจเรียน หรือน่าสงสัยว่างานไม่เป็นปัจจุบัน ก็จะได้รับเกียรตินั้นทันที
- ครั้งที่ 2 เมื่อจบในแต่ละ 1 บทเรียน หรือ 1 หน่วยการเรียนรู้ เป็นการตรวจสอบความถูกต้อง คุณภาพของสมุดงานของนักเรียนอย่างละเอียด
*******************************************
ปัญหา- ต้องการตรวจสอบความถูกต้อง ความโปร่งใสของการตรวจงานของครู ว่าครูได้ตรวจผิดพลาดไปหรือไม่ นักเรียนยอมรับผลนั้นหรือไม่ หรือต้องการทวงงานนักเรียนที่ยังค้างส่ง
- ติดประกาศข้อมูลการส่งงานและผลการประเมินที่ป้านิเทศหน้าห้องเรียน
*******************************************
ปัญหา
- เมื่อครูไม่สามารถมาปฏิบัติการสอนได้ เน่ื่องจากลากิจ ลาป่วย ไปราชการ แล้วนักเรียนจะทำอย่างไร ถึงจะไ่ม่หายใจทิ้ง (เดี๋ยวจะเปลื้องออกซิเจน)
แนวทางการแก้ปัญหา
- จดใบความรู้
- ให้แบบฝึกหัดเพิ่มเติม
- เขียนบทนิยาม ทฤษฎีบท ทั้งหมดของบทต่อไปในสมุดด้านหลัง
- 1 สูตร คัด 30 จบ ในเวลา 1 ชั่วโมง (จะได้ประมาณ 10 สูตร) จะได้จำสูตรไปด้วย เพราะ...ถ้าให้ทำโจทย์คณิตศาสตร์ (โจทย์น่ารักๆ) บางทีก็ "ทำบ้าง ไม่ทำบ้าง" หรือ "ทำ = ไม่ทำ"
- ในกรณีฉุกเฉินสามารถฝาก "สอนแทน" แบบ Online หรือโทรศัพท์แจ้งก็ได้
- สำหรับวิชาภาษาอังกฤษ ขอแนะนำให้คัดคำศัพท์และคำแปล 50 จบไปพร้อมกัน เป็นการฝึกจำคำศัพท์และความหมายไปพร้อมกัน (อัศจรรย์แห่งการเขียน หนึ่งใน สุจิปุลิ)
ดีค่ะ ต้องทดลองนำไปใช้
ตอบลบ