ภักดี ชูกรณ์

• ชื่อเรื่อง  การพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน  ทักษะกีฬาฟุตบอล  สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (พลศึกษา)
• ผู้ศึกษา  นายภักดี  ชูกรณ์
• ปีที่ทำวิจัย  2556

บทคัดย่อ

                  การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ  1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน ทักษะกีฬาฟุตบอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (พลศึกษา) ตามเกณฑ์ 80/80  2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (พลศึกษา) โดยใช้เอกสารประกอบการเรียน ทักษะกีฬาฟุตบอล ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3  3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน ทักษะกีฬาฟุตบอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (พลศึกษา)
                  ประชากร  ที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้  ได้แก่   นักเรียนโรงเรียนบ้านทุ่งกรวดและโรงเรียน  วัดประดิษฐาราม  ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3  จำนวน 42 คน
                  กลุ่มตัวอย่าง  ได้แก่ นักเรียนโรงเรียนวัดประดิษฐาราม  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา  2556  จำนวน 22 คน โดยใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive sampling) เนื่องจากนักเรียนมีห้องเดียว
                  เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาคือ  เอกสารประกอบการเรียน  ทักษะกีฬาฟุตบอล  สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (พลศึกษา)  แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (พลศึกษา)  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อเอกสารประกอบการเรียน ทักษะกีฬาฟุตบอล  สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย  ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบ t – test
ผลการศึกษาครั้งนี้ พบว่า
                  1. เอกสารประกอบการเรียน  ทักษะกีฬาฟุตบอล  สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (พลศึกษา) มีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.43/80.83 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้  คือ  80/80
                  2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียน ทักษะกีฬาฟุตบอล  สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (พลศึกษา)  มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน  อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
                  3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียน ทักษะกีฬาฟุตบอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (พลศึกษา) อยู่ในระดับมาก