- ชื่องานวิจัย : การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องลำดับและอนุกรม โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องลำดับและอนุกรม ตามแนวทางการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ วัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนท่าแพผดุงวิทย์
- ชื่อผู้วิจัย : นางอังคณา ศุภพงศกร
- ปีการศึกษา : 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตุประสงค์ 1) เพื่อสร้างและพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องลำดับและอนุกรม ตามแนวทางการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ วัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ให้ประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2)เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ 5 เรื่องลำดับและอนุกรม โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องลำดับและอนุกรม ตามแนวทางการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ วัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้ และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ 5 เรื่องลำดับและอนุกรม โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องลำดับและอนุกรม ตามแนวทางการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ วัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้การวิจัย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 25560 โรงเรียนท่าแพผดุงวิทย์ อำเภอท่าแพ จังหวัดสตูล จำนวน 30 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ 1) แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ 5 เรื่องลำดับและอนุกรม โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องลำดับและอนุกรม ตามแนวทางการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ วัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 6 แผนการจัดการเรียนรู้ รวม 20 ชั่วโมง 2) แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ 5 เรื่องลำดับและอนุกรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 แบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ 3) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องลำดับและอนุกรม ตามแนวทางการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ วัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 4 ชุด 4) แบบวัดความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ 5 เรื่องลำดับและอนุกรม โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องลำดับและอนุกรม ตามแนวทางการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ วัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 แบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 มาตรฐาน จำนวน 10 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบที (t-test)
ผลการวิจัย พบว่า 1) ประสิทธิภาพของกระบวนการจากการจัดการเรียนรู้โดยใช้ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องลำดับและอนุกรม ตามแนวทางการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ วัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 (E1) มีค่าเท่ากับ 83.75 และประสิทธิภาพของผลลัพธ์จาก การทำแบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องลำดับและอนุกรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 (E2) มีค่าเท่ากับ 82.11 กล่าวคือ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องลำดับและอนุกรม ตามแนวทางการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ วัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.75/82.11 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ คือ 80/80 2) ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ 5 เรื่องลำดับและอนุกรม โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องลำดับและอนุกรม ตามแนวทางการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ วัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้นั้น สามารถพิจารณาได้จากคะแนนเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และผล การทดสอบด้วยที ผลปรากฏว่า คะแนนเฉลี่ยจากการวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องลำดับและอนุกรม โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องลำดับและอนุกรม ตามแนวทางการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ วัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้เท่ากับ 14.50 และ 23.33 จากคะแนนเต็ม 30 คะแนน ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 3.31 และ 3.46 ตามลำดับ ผลการทดสอบด้วยทีแสดงให้เห็นว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ 5 เรื่องลำดับและอนุกรม โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องลำดับและอนุกรม ตามแนวทางการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ วัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนท่าแพผดุงวิทย์ อำเภอท่าแพ จังหวัดสตูล หลังจากการจัดการเรียนรู้สูงกว่าก่อนการจัดการเรียนรู้ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) คะแนนเฉลี่ยจากการวัดความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่องลำดับและอนุกรม โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องลำดับและอนุกรม ตามแนวทางการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ วัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 6 หลังการจัดการเรียนรู้เท่ากับ 4.56 และมีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.49 ซึ่งสามารถสรุปได้ว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่องลำดับและอนุกรม โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องลำดับและอนุกรม ตามแนวทางการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ วัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในระดับมากที่สุด
Email ผู้วิจัย : aungkana5108@gmail.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น